หน่อไม้ Bamboo shoot
ลงรถประจำทางหน้าป้ายอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว
แล้วเดินตามทางเข้าไปที่ทำการอุทยาน ห้องแสดงนิทรรศการมีตัวอย่างไผ่เรียงรายมากมาย
ก่อนนี้นึกว่าไผ่ก็คือไผ่ถึงมีหลายชนิดก็คงไม่มากเกินไปนัก ไผ่มากมายที่เห็นวันนั้นทำให้คิดถึงคนจีนขึ้นมา
คิดถึงภาพวาดพู่กันจีนที่ให้โค้งไม้และใบเรียวพริ้วเหมือนว่าที่อยู่บนกระดาษนั่นคือไผ่ต้นเรียวสูงล้อฟ้า
มากกว่าเป็นหมึกบนกระดาษนึกถึงตั่งไม้ไผ่ที่เคยนั่ง
คิดถึงตะกร้า ฝาขัดแตะ ไม้ขัดฝาหม้อข้าว ตะเกียบ ฝาชี ไม้ลูกชิ้น
และคิดถึงหน่อไม้หญ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่กำลังงอก
ไผ่เป็นพรรณไม้ยืนต้น
ลำต้นเล็กใหญ่ต่างกันไปเคยเห็นหญ้าปลูกในหม้อทะลุเก่าบนชานบ้าน
ชาวบ้านที่ไปคุยด้วย เจ้าบ้านใจดีนำน้ำมาเลี้ยง ถามดูเล่าว่า เป็นไผ่จืดใช้เป็นยา
แต่ก็ไม่ทราบว่ายาอะไร เป็นต้นไม้ของพ่อเจ้าของบ้าน เรื่องไผ่มีให้รู้อีกมาก
ไผ่ที่เรากินกันทั่วไปเป็นหน่อไม้ไผ่ตง
หน่อใหญ่มักนำมาไสด้วยม้าไสหน้าตาเหมือนกับม้าไสน้ำแข็ง
ส่วนหน่อไม้ที่อร่อยกว่าคือ หน่อไม้หวาน หน่อเล็กเก็บจากกอไผ่ป่า ครั้งที่เข้าป่า
หลวงพ่อที่ไปพักด้วยพาไปเดินป่าเก็บหน่อไม้เล็กๆเป็นหน่อไม้หวานมาให้ชาวบ้านทำแกงให้กิน
รสหวานของหน่อไม้สด อร่อย
หน่อไม้ไผ่ตงเป็นผักที่แข็งแรง
เก็บได้นาน รูปร่างดีตลอดไม่เฉาไม่โรย เมื่อเก็บมามักเหลือเปลือกไว้
หากเปลือกที่หุ้มโทรมไปนิดก็ปอกเปลือกที่ดูยับเยินออก กินข้างใน เป็นผักที่มีกาบเป็นหีบห่อบรรจุเฉพาะหน่อ
ขนส่งง่ายและรักษาคุณค่าทางอาหารของตนเองได้ดี
หนังสือสมุนไพรไทยเขียนเล่าว่า หน่อไม้สดมีคุณค่าทางอาหารสูงมาก นอกจากมีโปรตีน ยังมีวิตามินบี 1บี 2 และซี วิตามินนั้นไม่ทนร้อน
จึงหมดไปเมื่อนำหน่อไม้มาทำอาหาร ที่น่าสนใจคือ หน่อไม้มีกรดอะมิโนหลายชนิด
รวมทั้งกรดอะมิโนชนิดที่ร่างกายผลิตเองไม่ได้ต้องได้รับจากอาหาร
หน่อไม้คือไผ่ที่กำลังงอก
จึงได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีจากไผ่กอนั้น
สารอาหารที่มีประโยชน์จึงมารวมกันที่นี่อยู่มาก
เรื่องแปลกอย่างหนึ่งของไผ่คือ
การออกดอกของไผ่ ยังไม่ทราบว่าทำไมไผ่ออกดอก เพราะเมื่อออกดอกแล้วไผ่ก็จะตาย
เคยเป็นเรื่องถึงกับที่จีนต้องส่งคณะทำงานเข้าไปย้ายหมีแพนดาออกจากป่าที่เป็นถิ่นอาศัยเพราะไผ่ในป่านั้นออกดอก
เกรงว่าหมีจะไม่มีอาหารเพราะแพนดากินใบไผ่เป็นอาหารหลัก
หน่อไม้สดคุณค่าสูง มีโปรตีน วิตามิน
และที่สำคัญมีกรดอะมิโนที่ร่างกายผลิตเองไม่ได้
ต้องนำเข้าจากภายนอกจากอาหารเท่านั้น
หน่อไม้มีกากใยอาหารที่เข้าสู้ร่างกายแล้วจะช่วยให้ร่างกายนำกาก
และสารพิษในร่างกายออกสู่ภายนอกได้เร็ว โดยดูดน้ำและเพิ่มปริมาตรให้ตัวกากเองให้มากขึ้นจนร่างกายต้องส่งออกฉับพลัน
หน่อไม้เป็นผักที่มีกากใยอาหาร (fiber) มากอาหารต่างๆที่เรากินเข้าไปเมื่อผ่านการย่อยแล้ว
ส่วนที่มีประโยชน์กับร่างกายก็จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ส่วนกากอาหารที่เหลือ
หรือสารพิษต่างๆ เช่น ยาฆ่าแมลง โลหะหนักต่างๆ หรือพวกไนไตรท์ ก็จะไปรวมกันที่ลำไส้ใหญ่รอเวลาที่จะออกสู่ภายนอก
แต่ถ้าสิ่งเหล่านี้อยู่นานเท่าไหร่ก็ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่มากเท่านั้น
แต่ถ้ามีกากใยอาหารมากๆกากใยอาหารเหล่านี้จะช่วยดูดน้ำและเพิ่มปริมาณ
ทำให้กากอาหารเหล่านี้มีน้ำหนักมากก็จะเคลื่อนขบวนออกสู่โลกภายนอกได้เร็ว
นี่แหละกากใยอาหารจึงช่วยลดการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่
หน่อไม้กลายเป็นอาหารใหม่หลายชนิด
ในชีวิตของคนไทย หน่อไม้สดๆต้มจืดกระดูกหมูแกงคั่วหน่อไม้ หรือ
จะต้มเอาไว้จิ้มน้ำพริก ทำซุปหน่อไม้
แต่ความขื่นขมของหน่อไม้คงต้องดับด้วยน้ำคั้นใบย่านางเสียหน่อย
หน่อไม้ก็จะหวานจิ้มน้ำพริก หรือทำซุปได้รสกลมกล่อม
แต่ถ้าอยากเก็บหน่อไม้ไว้กินนอกฤดูคงต้องลงแรงดองหน่อไม้
ทำเป็นหน่อไม้เปี้ยว เอาไว้แกงส้ม แกงคั่วได้หน่อไม้ที่ดองเองจะปลอดภัยกว่าหน่อไม้ที่ซื้อมาเป็นแน่เพียงแค่หั่นหน่อไม้สดเป็นชิ้นบาง
หาเกลือมาคลุกเคล้าพอประมาณ ถ้าเป็นเกลือเสริมไอโอดีนได้ยิ่งดี
หาโหลหรือขวดแก้วที่ใช้แล้วมาใส่หน่อไม้อัดหน่อไม้ให้แน่น
เติมน้ำสะอาดปิดฝาทิ้งไว้รอเวลานอกฤดู
แต่ถ้าอยากกินเร็วก็ให้ใส่น้ำซาวข้าวแทนน้ำสะอาด
หน่อไม้ก็จะเปรี้ยวเร็วตามใจปรารถนา
หน่อใหม่ของหญ้าใหญ่เป็นผักที่แตกต่างจากพวกคือไม่ได้มีสีเขียว
ทว่าคุณค่าจากเส้นใย แร่ธาตุ และวิตามินในหน่อไม้ไม่ได้ด้อยกว่าผักสีเขียวอื่นแต่อย่างใด
ไผ่เป็นสัญลักษณ์ของปัญญาของจีน
แต่เรื่องราวของไผ่ในอเมริกาน่าสนใจเหมือนกัน ตัวเลขของกระทรวงพาณิชย์ของอเมริกา
ชี้ว่าระหว่างปี 1990 ถึง 1994 อเมริกานำหน่อไม้
30,000 ตัน ร้านของชำเวียดนาม ในซีแอตเติล
มีชั้นวางหน่อไม้กระป๋องที่ตั้งหน่อไม้เต็มชั้นสูง 30 ฟุต
มีทั้งกระป๋องเท่ากระป๋องปลากระป๋อง และเป็นปี๊ปขนาดใหญ่สำหรับโรงแรมซื้อไปทำอาหาร
หนอไม้เหล่านี้มาจากไทย ไต้หวัน และจีนแผ่นดินใหญ่
ในรัฐโอเรกอนมีการทำฟาร์มไผ่
เพื่อผลิตไม้ไผ่และหน่อไม้ ตำรับอาหารที่ทำจากหน่อไม้มักมาจากจีน
หน่อไม้เป็นอาหารระดับโลก
เนื่องจากไผ่ไม่เป็นเพียงต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในตระกูลเดียวกัน
แต่ยังขึ้นชื่อด้านการโตเร็วอีกด้วย หน่อไม้ในเมืองไทยเป็นแหล่งอาหารที่พอสำหรับเลี้ยงคนไทย
และยังเผื่อแผ่ไปถึงชาวประเทศนอกอีกด้วย
แต่หน่อไม้เองก็มีข้อด้อย
คือมีกรดออกซาลิคซึ่งจับตัวแร่ธาตุต่างๆได้ ทำให้ร่างกายนำธาตุนั้นไปใช้ไม่ได้
จึงควรกินหน่อไม้แต่พองาม และกินผักอื่นๆด้วย
ถ้าไม่ได้กินหน่อไม้มานาน
วันนี้ลองมองหาหน่อไม้มาร่วมโต๊ะด้วย ร่างกายก็จะขอบคุณการตัดสินใจของเราและตอบแทนด้วยการทำงานอย่างปกติให้เราทำงานใช้ชีวิตสุข
และรักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ชื่อผัก: หน่อไม้
ชื่อวิทยาศาสตร์:
Bambusa spp.
วงศ์: Poaceae
ตารางแสดงคุณค่าอาหารส่วนที่กินได้ 100 กรัม
|
|||
พลังงาน
|
โปรตีน
|
ไขมัน
|
คาร์โบไฮเดรต
|
กิโลแคลอรี
|
กรัม
|
||
27
|
2.3
|
0.2
|
3.9
|
ตารางแสดงคุณค่าอาหารส่วนที่กินได้ 100 กรัม
|
||||||
แคลเซียม
|
ฟอสฟอรัส
|
เหล็ก
|
วิตามินบี1
|
ตามินบี2
|
ไนอาซิน
|
วิตามินซี
|
มิลลิกรัม
|
||||||
49
|
55
|
0.3
|
0.01
|
0.08
|
0.8
|
11
|
ตารางแสดงคุณค่าอาหารส่วนที่กินได้ 100 กรัม
|
|
เบต้า-แคโรทีน
|
ใยอาหาร
|
RE
|
กรัม
|
-
|
-
|
กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารฯสุข. ตารางแสดงคุณค่าทางโภชนาการของอาหารไทย. 2535
RE ไมโครกรัมเทียบหน่วยเรตินัล
- ไม่มีการวิเคราะห์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น