ชะมวง Cha-muang
หนังตะลุงเป็นแหล่งรวมภูมิปัญญาคนปักษ์ใต้
เอาไว้หลายแขนง นับแต่ขั้นตอนการฟอกหนัง การฉลุลายวาดลาย
กระทั่งการร้องและร่ายรำใส่วิญญาณให้ตัวหนังโลดแล่นบนจอผ้า ตรึงตาผู้รอชม
ในขั้นปฐม ได้แก่การฟอกหนัง กระบวนการนี้กว่าจะลุล่วง ต้องอาศัย “ส้มมวง” เคียงข้าง
ช่างหนังจะนำผลและใบแก่ของพืชชนิดนี้มาหมัก เพื่อให้ได้น้ำกรดสำหรับฟอกหนังวัว และควาย
เพื่อเตรียมแกะฉลุเป็นรูปตัวหนังในลำดับถัดไป นอกจากนี้เปลือกต้นและยางส้มมวงยังให้สีเหลืองสำหรับย้อม
ผ้าเป็นของแถมมาด้วยและที่มีประโยชน์แน่
ๆ อีกอย่างจากต้นเดียวกันก็คือ ใบส้มมวง หรือชะมวงที่กินอร่อยนัก ชื่อของ
“ต้มหมูใบชะมวง” อันลือลั่น การรันตีคุณภาพได้
ลูกชะมวงรูปร่างคล้ายมังคุด
ชาวบ้านมักเก็บมากินเล่นเป็นผลไม้ชะมวงเป็นไม้ยืนต้น
สูง 10-20 เมตรไม่เลือกถิ่นที่อยู่จึงพบได้ทุกภาคทั่วเมืองไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ตามบริเวณชายป่า ชื่อที่คนใต้เรียกกันว่า
“ส้มมวง” ชี้บ่งชัดเจนว่า พืชชนิดนี้ต้องมาพร้อมความเปรี้ยวที่กลมกล่อม
ชาวปักษ์ใต้และคนภาคตะวันออก ชอบรสเปรี้ยวของชะมวง ที่แผ่ซ่านทั่วถึงทั้งส่วนยอด
ใบ และผล ใบชะมวงมักถูกเด็ดมาทำอาหารที่อาศัยการปรุงให้สุก เช่นต้มส้ม แกงส้ม ต้มเครื่องใน
และที่ขึ้นชื่อลือชาในฐานะอาหารขึ้นหน้าขึ้นตาของชาวเมืองจันทน์ ก็คือ แกงหมูชะมวง
เผลอ ๆอาจได้เจอแกงเนื้อชะมวงเข้าด้วยอีกรายการหนึ่ง
ใบชะมวงมีสีเขียว
ยาวราวครึ่งฟุตเศษ ๆ เนื้อใบหนา มีกลิ่นนิดหน่อย เอิบอาบไปด้วยของดีมีประโยชน์ควบคู่ไปกับรสเปรี้ยว
ๆ สารอาหารที่เด่น ๆ คือ มีสารเบต้าแคโรทีน และวิตามินบี 1
นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุอีกมากรวมทั้งแคลเซียม เหล็ก และฟอสฟอรัส
เมื่อกินพร้อมเนื้อสัตว์ที่ปรุงรวมมาด้วยกันในแกงใส่ใบชะมวง
ร่างกายก็ยิ่งนำสารอาหารเหล่านี้ไปใช้ได้เต็มที่
ช่วงหน้าฝน ยอดชะมวงสีเขียวอ่อนจะดกสะพรั่ง เชิญชวนให้เด็ดไปกินสด ๆ กับน้ำพริกทุกชนิด
ช่วยเพิ่มวิตามินซี ทำให้ดูดซึมเหล็กที่มีอยู่ได้ดีขึ้น
ส่งผลให้ร่างกายมีเม็ดเลือดแดงมากพอในการลำเลียงออกซิเจนไปให้เซลล์เล็ก ๆ
ในร่างกาย แล้วรู้ไหมว่าวิตามินซียังช่วยให้เส้นเลือดฝอยเล็ก ๆ แข็งแรงไม่แตกง่าย
ทำให้เหงือกแข็งแรง ไม่เป็นโรคเลือดออกตามไรฟัน เพิ่มเสน่ห์ยามยิ้มหวาน
หลายบ้านปลูกชะมวงเอาไว้ เพราะเล็งเห็นประโยชน์หลายสถาน ในการเก็บยอด ใบ และผลไว้กินอีกทั้ง ยังเป็นยาโบราณ
เพราะใบและผลช่วยระบายท้องแก้ไข้ ฟอกเสมหะ ไอ กระหายน้ำ แก้ธาตุพิการ
และใช้ผสมยาอื่น ๆ ออกฤทธิ์ขับเลือดออกจากภายใน และที่แน่ ๆ คือ
ได้ร่มเงาจากใบดกหนา
วิธีการปลูกชะมวงใช้ได้ทั้งเพาะเมล็ด และตอนกิ่งเมื่อเติบโตจะออกดอก ที่ดูเผิน ๆ คล้ายดอกมะดัน เพราะมีขนาดเล็กสีเหลือง
กลีบแข็ง ดอกชะมวงมีกลิ่นหอม และออกตามกิ่งพราวไปทั้งต้น ราวจะแข่งกับใบ
ที่แม้เด็ดกินบ่อย ๆ ก็ไม่รู้จักเบาบาง ยังมีเหลือพอแจก หรือให้เก็บขายกำละ 3 บาท
5 บาทได้สบายๆ
ปลูกชะมวงดีเพราะเปรี้ยวอย่างมีเสน่ห์
หยิบจับใส่แกงอะไรใครก็อยากชิม ลิ้มลอง
ถึงมีต้นเดียวก็ทำหน้าที่ได้ไม่ขาดตกบกพร่อง เพราะออกผล ใบ ยอดใหม่ให้ได้ทันใช้
ไม่อ้อยอิ่งรีรอ
หากไม่มีที่พอ ขอแค่เป็น “คอชะมวง”
ก็ใช้การได้ เพราะคงมีคนสมัครใจช่วยปลูกแทนเพื่อใบมาขายแล้วเปรี้ยวแบบมีเสน่ห์ของชะมวงก็จะไม่สูญหาย
จนกลายเป็นไม้สูญพันธุ์
ชื่อผัก: ชะมวง, ส้มมวง, ส้มป้อง
ชื่อวิทยาศาสตร์: Garcinia cowa Roxb.
วงศ์: Clusiaceae
ตารางแสดงคุณค่าอาหารส่วนที่กินได้ 100 กรัม
|
|||
พลังงาน
|
โปรตีน
|
ไขมัน
|
คาร์โบไฮเดรต
|
กิโลแคลอรี่
|
กรัม
|
||
51
|
1.9
|
0.6
|
9.6
|
ตารางแสดงคุณค่าอาหารส่วนที่กินได้ 100 กรัม
|
||||||
แคลเซี่ยม
|
ฟอสฟอรัส
|
เหล็ก
|
วิตามินบี1
|
วิตามินบี2
|
ไนอาซีน
|
วิตามินซี
|
มิลลิกรัม
|
||||||
27
|
13
|
1.1
|
0.7
|
0.04
|
0.2
|
29
|
ตารางแสดงคุณค่าอาหารส่วนที่กินได้ 100 กรัม
|
|
เบต้า-แคโรทีน
|
ใยอาหาร
|
RE
|
กรัม
|
-
|
-
|
กองโภชนาการ
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. ตารางแสดงคุณค่าทางโภชนาการของอาหารไทย. 2535.
RE ไมโครกรัมเทียบหน่วยเรตินัล
-ไม่มีการวิเคราะห์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น